วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

พรีเมี่ยม: เกร็ดความรู้ของพรีเมี่ยม


คำถาม 1.สินค้าพรีเมี่ยม คืออะไร?  
คำตอบ   สินค้าพรีเมี่ยม คือ ของแจกนั้นเองนะครับ แต่ว่าตัวสินค้าจะเป็นรูปแบบเฉพาะตามแบบการสั่ง
               ทำเท่านั้นนะครับ ไม่มีที่ไหนเหมือน เป็นของแจกเอกลักษณ์ของคุณเอง ใช้แจกเพื่อ
               ส่งเสริมการตลาด เป็นของที่ระลึก ของแจกตามเทศกาลต่างๆ หรือใช้ในการทำโปรโมทชั่่นต่างๆ

คำถาม 2.แล้วราคา....ล่ะ! แพงไหม?
คำตอบ   ตอบง่ายมากครับ ก็ตาม งบประมาณของท่านลูกค้านั่นเอง ซึ่งเรา "ประทับใจพรีเมี่ยม" จะ
               แนะนำเรื่องความเหมาะสมของตัวสินค้าตามงบท่าน ตามเทศกาล และโอกาสต่างๆ และ
               การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ท่านมีทางเลือกอีกด้วย

คำถาม 3.แล้วแจก..ของพรีเมี่ยม (Premium) ..ทำไม?
คำตอบ   ในการทำธุรกิจ ต้องเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและให้จดจำแบรนด์(โลโก้)หรือสินค้าเรามากที่สุด
               เพื่อกระตุ้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ให้ซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น แล้วให้เกิดการจดจำและความรู้สึกที่ดี
               ต่อสินค้าและชื่่อแบรนด์ของท่านอีกด้วย
ที่มา pratubjai-premium
 ไม่ว่าจะเป็น Flash drive, Power bank และอื่นๆอีกมากมาย 
ติดต่อได้ที่
บริษัท : ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิสเทิน เวนิส

59/97 หมู่บ้านเดอะวอเตอร์เฮาส์ หลักสอง บางแค กรุงเทพฯ 10160

เบอร์โทรศัพท์ 02-404-0650 เบอร์โทรสาร 02-404-0650

เว็บไซต์ http://www.easterm-venice.com

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

พรีเมี่ยม: เหตุผลอันดับแรกๆ ที่บริษัทต่างๆเลือกที่จะแจกของพรีเมี่ยม


ถ้าคุณกำลังตัดสินใจที่จะแจกของพรีเมี่ยมดีหรือไม่ บทความนี้เหมาะกับคุณอย่างยิ่ง โดยปกติแล้วสินค้าพรีเมี่ยมหรือของแจกลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมาย ไม่จำเป็นที่ต้องมีราคาแพงเสมอไป แต่ถึงจะไม่แพงแต่ก็มีต้นทุนอยู่ดี ซึ่งบางบริษัทอาจจะคิดหนักว่าจะแจกของพรีเมี่ยมดีหรือไม่ หรือจะเปลี่ยนไปใช้วิธีการโปรโมตบริษัทวิธีอื่นดี
เมื่อคุณอ่านบทความนี้แล้ว คุณจะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมบริษัทต่างๆ ถึงได้เลือกวิธีการแจกของพรีเมี่ยม

ของพรีเมี่ยมเป็นของที่ผู้คนพบเห็นได้ง่าย

หลายๆบริษัทเลือกที่จะแจกของพรีเมี่ยม เพราะว่าของพรีเมี่ยมเป็นของที่ผู้คนพบเห็นได้ง่าย ของพรีเมี่ยมหลายประเภท ผู้ที่ได้รับของ มีแนวโน้มที่จะใช้ของนั้นเกือบทุกวัน และพกติดตัวเวลาไปไหนมาไหน แทนที่บริษัทจะใช้สื่อ พวกสิ่งพิมพ์ ทีวี หรือวิทยุในการโฆษณา ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง บริษัทต่างๆก็เปลี่ยนมาใช้ของพรีเมี่ยมแทน ซึ่งถ้าคุณแจกของที่เหมาะสม ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม โลโก้หรือข้อมูลของบริษัทที่พิมพ์ลงบนตัวของพรีเมี่ยม ก็มีโอกาสที่ถูกเผยแพร่ ให้คนกลุ่มใหญ่ได้พบเห็นเช่นเดียวกับสื่อต่างๆ

ของพรีเมี่ยมส่วนใหญ่ราคาไม่แพง

ต้นทุนของการแจกของพรีเมี่ยม ส่วนใหญ่ไม่สูงมากนัก ซึ่งคุณสามารถเลือกของพรีเมี่ยมที่พอดีกับงบประมาณที่คุณมีได้ไม่ยาก การแจกของพรีเมี่ยมที่มีราคาสูงเกินไป ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ จริงๆ แล้วการโฆษณาผ่านการแจกของพรีเมี่ยม ถือว่าเป็นการโฆษณาที่บริษัทส่วนใหญ่สามารถจับจ่ายได้ เมื่อเทียบกับสื่ออื่นๆ และนอกจากนี้ ผลของการโฆษณาของของพรีเมี่ยม อาจจะดีกว่าสื่อต่างๆ เมื่อเทียบกันในแง่ของเวลาของการโฆษณา เพราะของที่แจกไปลูกค้าอาจจะนำมาใช้งานนานเป็นหลายๆปี

ของพรีเมี่ยมมีหลายประเภทหลายแบบ

หลายบริษัทเลือกที่จะใช้ของพรีเมี่ยม เพราะเหตุผลที่ว่าของพรีเมี่ยม มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็มีหลากหลายรูปแบบ ทำให้ง่ายที่จะเลือกของพรีเมี่ยมให้เหมาะสมหรือเกี่ยวข้องกับบริการหรือ สินค้าของคุณ

ถ้าคุณคิดว่า การแจกของพรีเมี่ยมเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วสำหรับบริษัทคุณ ขั้นต่อไปคือคุณต้องวางแผนสำหรับ งบประมาณทั้งหมด จำนวนของพรีเมี่ยมที่จะแจก และ ประเภทของสินค้าพรีเมี่ยมที่จะแจก เมื่อคุณมีข้อมูลเหล่านี้อยู่ในใจ จะทำให้คุณเลือกหาของพรีเมี่ยมที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก premium-gifts.wikispaces ดอทคอม

 ไม่ว่าจะเป็น Flash drive, Power bank และอื่นๆอีกมากมาย 
ติดต่อได้ที่
บริษัท : ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิสเทิน เวนิส
59/97 หมู่บ้านเดอะวอเตอร์เฮาส์ หลักสอง บางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรศัพท์ 02-404-0650 เบอร์โทรสาร 02-404-0650
เว็บไซต์ http://www.easterm-venice.com

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

พรีเมี่ยม: แจก แถม กลยุทธ์ในการกระตุ้นยอดขายในช่วงกำลังซื้อหด


 
ในปัจจุบัน สินค้าพรีเมี่ยม ของพรีเมี่ยม  ของที่ระลึก (Premium)  ถูกนำมาใช้ในโอกาสต่าง ๆ อาทิเช่น ของพรีเมี่ยมสำหรับเปิดตัวสินค้าใหม่ เปิดตัวโครงการบ้าน หรือในโอกาสครบรอบต่าง ๆ ของหน่วยงาน,ของที่ระลึกในงานเกษียณ ,ของพรีเมี่ยมในงานแกรนด์โอเพนนิ่งต่าง ๆ รวมไปถึงเทศกาล อย่างวันวาเลนไทน์  มอบเป็นของขวัญแก่คนรู้ใจ   โดยของพรีเมี่ยม ที่เป็นที่นิยม  ได้แก่ ปากกา , พวงกุญแจ ,ถุงผ้า , แก้วกาแฟ , จานรองแก้ว , เข็มกลัดกระเป๋า รวมไปถึง สินค้าประเภทไอทีอย่าง Power bank และFlash drive ซึ่งเดี๋ยวนี้แฟลชไดร์ฟมีดีไซน์เก๋ๆอยู่มากมาย
           ของพรีเมี่ยม (Premium) หรือ สินค้าพรีเมี่ยมของที่ระลึก สินค้า เหล่านี้ บริษัทและหน่วยงานต่าง ๆ สั่งผลิตขึ้นมา โดยใส่ชื่อหรือตราของหน่วยงาน หรือถูกออกแบบให้มีคอนเซ็ป ไปในแนวเดียวกับองค์กรนั้น ๆ ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้รับ เกิดการจดจำ ดูโดดเด่นเมื่อนำไปใช้  โดยมักจะเป็นของที่มีความแตกต่างกับของที่พบเห็นในตลาดทั่ว ๆ ไป เป็นของที่ตั้งใจผลิตเพื่อโอกาสนั้น ๆ มักเป็นของกะทัดรัด พกพาไปไหนได้ หากจะเลือกของพรีเมี่ยมของที่ระลึก ให้ใคร จึงควรที่จะเลือกของที่มีประโยชน์ และนำไปใช้งานได้จริง ๆ
แจก แถม กลยุทธ์ในการกระตุ้นยอดขายในช่วงกำลังซื้อหด
           ท่านผู้อ่านเคยสำรวจของใช้ในบ้านของท่านหรือไม่ครับว่าเป็นของ ที่ได้รับจากการแจก แถม แลกซื้อ จากการซื้อสินค้าต่างๆ มากน้อยเพียงใด ลองเริ่มจากในครัวก่อนก็ได้ครับ แก้วน้ำ แก้วกาแฟ แก้วมัค ถ้วย ชาม ช้อนส้อม กระติกน้ำ ที่ใช้กันประจำในหลายๆ ครอบครัว ส่วนใหญ่เป็นของที่ได้มาจากรายการ แจก แถม สินค้าสมนาคุณ ของแถม ของที่ระลึก ของสินค้าต่างๆ ที่ท่าน
               ท่านผู้อ่านเคยสำรวจของใช้ในบ้านของท่านหรือไม่ครับว่าเป็นของ ที่ได้รับจากการแจก แถม แลกซื้อ จากการซื้อสินค้าต่างๆ มากน้อยเพียงใด ลองเริ่มจากในครัวก่อนก็ได้ครับ แก้วน้ำ แก้วกาแฟ แก้วมัค ถ้วย ชาม ช้อนส้อม กระติกน้ำ ที่ใช้กันประจำในหลายๆ ครอบครัว ส่วนใหญ่เป็นของที่ได้มาจากรายการ แจก แถม สินค้าสมนาคุณ ของแถม ของที่ระลึก ของสินค้าต่างๆ ที่ท่าน
              ทีนี้ลองย้ายไปดูห้องเก็บของเล่นลูกกันบ้าง พบตุ๊กตาหรือหุ่นพลาสติกที่แถมมากับร้าน Fast Food ดังๆ นอนกองอยู่ในตู้เป็นสิบๆ ตัวใช่ไหมครับ แล้วลูกบอลลูกใหม่สีสวยๆ ที่เพิ่งได้มาในช่วงฟุตบอลโลก จากการจัดรายการส่งเสริมการขายมาเป็นชุดกับผงซักฟอกยี่ห้อดังละครับ มีอยู่ด้วยหรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้ลูกหรือลูกร้องจะเอาเพราะเห็นเพื่อนๆ ที่โรงเรียนเล่นกัน
              เห็นไหมละครับว่า รอบๆ ตัวเรามี ของแจก ของแถม ของที่ระลึก ที่มากับสินค้ามากมายปีๆ หนึ่ง รายการส่งเสริมการขายประเภทแจกแถมที่เสนอให้กับผู้บริโภคมีนับพันรายการ แล้วของแจกแถมหรือการจัดรายการแบบไหนละที่เป็นของแจกแถมที่ดี ทั้งสำหรับผู้บรโภคและนักการตลาด

           กลยุทธ์แรกคือ “ของแถมนำสินค้า  เป็นกลยุทธ์ที่นักการตลาดใช้ของแถมที่โดดเด่น เป็นที่ต้องใจของลูกค้า ทำให้ลูกค้าอยากได้ จนต้องซื้อสินค้าหลัก (ทั้งๆ ที่อาจไม่ได้ต้องการสินค้าหลักหรือไม่ได้สนใจสินค้ายี่ห้อนั้นๆ) เช่น ร้านแมคโดนัลด์ เคยประสบความสำเร็จกับตุ๊กตาสนู้ปปี้และชุดของเล่นอีกหลายๆ ชุด ที่ลูกค้าจำนวนมากต้องการสะสมเป็น Collection จนถึงขนาดที่ว่า ซื้อชุด Happy Meal เพื่อให้ได้ตุ๊กตา แล้วทิ้งแฮมเบอร์เกอร์ไว้ที่โต๊ะ โดยไม่รับประทาน หรืออย่าง ผงซักฟอก บรีส เอกเซล ที่ขายพ่วงกับลูกฟุตบอล สีสดใส ในช่วงฟุตบอลโลก ทำเอาคุณแม่บ้านทั้งหลายต้องซื้อผงซักฟอกยี่ห้อนี้กัน ทั้งๆ ที่บางบ้านใช้เครื่องซักฟอกฝาหน้า เพราะลูกชอบสีของลูกบอลที่แถมอยู่กับผงซักฟอกฝาบนที่มีขายในห้างนั้น กลยุทธ์นี้ต้องถือว่า ของแถมดี มีชัยไปกว่าครึ่ง แต่การจะหา ของแถม ให้โดนใจลูกค้าในราคาทุนที่รับได้ เป็นเรื่องยากครับ
กลยุทธ์ที่สองคือ “ของแถมเป็นตัวทำกำไร หรือจะเรียกว่า ทำกำไรจากของแถมก็ได้ ส่วนใหญ่ทางห้างสรรพสินค้าจะนำกลยุทธ์นี้มาใช้กันมาก คือแทนที่จะแถมสินค้าให้ลูกค้า จะเปลี่ยนเป็นให้สิทธิลูกค้าที่ซื้อสินค้าตามเกณฑ์ที่กำหนดได้สิทธิแลกซื้อของพรีเมี่ยม โดยระบุว่าเป็นราคาพิเศษ เช่น ชั้นวางของจาก 800 บาท เหลือเพียง 450 บาท ลูกค้าก็จะรู้สึกว่าตัวเองได้ของถูก แต่ในความเป็นจริงชั้นวางของราคา 450 บาท ต้นทุนอาจเพียงแค่ 300 บาท บางครั้งเปอร์เซ็นต์กำไรจากการขายของในแผนกแลกซื้ออาจสูงกว่ากำไรจากสินค้าในชิ้นหลักด้วยซ้ำ
เรื่องคนไทยเรากลัวเสียสิทธิจากของแถมหรือของแลกซื้อ มีเพื่อนนักการตลาดในธุรกิจค้าปลีกเล่าให้ผมฟังว่า ห้างที่เขาเคยจัดรายการช่วงซัมเมอร์ สั่งพัดลมมาจำนวนมาก ไว้ในแผนกแลกซื้อ แล้วขึ้นป้ายว่าซื้อสินค้าในห้างครบ 500 บาท มีสิทธิแลกซื้อพัดลม มูลค่า 550 บาท ในราคา 390 บาท ผู้บริหารที่เป็นชาวต่างชาติมาเห็นรายการนี้แล้วเสนอให้เปลี่ยน โดยให้นำพัดลมไปตั้งกองไว้ในแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า แล้วขึ้นป้ายว่า ลดราคาจากปกติ 550 บาท เหลือ 390 บาท โดยเชื่อว่ายอดขายน่าจะเพิ่มขึ้นเพราะลูกค้าไม่ต้องนำใบเสร็จมาแลกซื้ออีก แต่ผู้บริหารคนไทยไม่เห็นด้วย แย้งว่า ตั้งอยู่ในแผนกแลกซื้อจะขายได้มากกว่า ที่ห้างก็เลยทดลองจัดรายการทั้ง 2แบบสลับกันไป ผลปรากฏว่าพัดลมที่วางอยู่ในแผนกแลกซื้อขายได้มากกว่าครับ ทั้งๆที่การซื้อยุ่งยากกว่า นี่ก็พอจะแสดงให้เห็นว่าคนไทยกลัวเสียสิทธิจากการส่งเสริมการขาย
กลยุทธ์ที่สาม “ของแถมสร้างข่าว เป็นการใช้ ของแจก ของแถม เป็นเครื่องมือในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ แบบปากต่อปากและผ่านสื่อแบบไม่ต้องเสียเงินซื้อสื่อ โดยอาศัยของแจกแถมที่มีความแปลก ไม่เหมือนใคร จนสื่อมวลชนสนใจมาทำข่าวหรือลูกค้าพูดถึงสินค้ากันต่อแบบปากต่อปากเพราะของแถม เช่น เมืองทองธานี เมื่อ 10กว่าปีก่อน เคยมีแคมเปญ ซื้อบ้านแถมรถ โดยลูกค้าที่มาซื้อคอนโดในโครงการทุกคนจะได้รับของ แถมเป็นรถไดฮัทสุ มิร่า และโตโยต้า โคโรล่า ขึ้นอยู่กับราคาคอนโด โดยไม่ต้องชิงโชค ซึ่งถือว่าเป็น ของแถม ที่ใหญ่มากสำหรับคอนโดราคา 5แสนถึงล้านกว่าๆ  ทำให้เป็นข่าวในหนังสือพิมพ์อยู่หลายวัน แต่แคมเปญนี้กลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จทางการตลาด
กลยุทธ์ที่สี่ “ของแถมช่วยสร้างยอดขายต่อเนื่อง การจัดของแถมเป็น Collection ให้ลูกค้า เก็บเป็นชุด เช่น ชุดตุ๊กตาสนู้ปปี้ของแมคโดนัลด์ หรือของแถม แก้วน้ำ แก้วมัค กระติกน้ำ ชุดจานชาม ชุดแก้วกาแฟ เพื่อให้แม่บ้านกลับมาซื้อซ้ำเพื่อให้ได้ครบเป็นชุด จะช่วยให้สินค้ามียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นการยืดอายุรายการส่งเสริมการขายให้ยาวขึ้นอีกด้วย แต่การจัดเป็น Collection ก็ต้องระวัง เพราถ้าของแถมชุดแรกๆ ไม่ได้รับความนิยม ชุดต่อๆ ไปที่จะตามออกมาก็จะแย่ตามไปด้วย ซึ่งทางบริษัทต้องวางแผนและสั่งสินค้าไว้ล่วงหน้าก็จะถอยกลับมาปรับกลยุทธ์ใหม่ได้ยากหรือมีต้นทุนเพิ่มขึ้น
เห็นไหมครับว่า แค่เรื่องของแจกแถม ซึ่งดูจะเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการทำการส่งเสริมการขาย ก็ยังมีกลยุทธ์ที่หลากหลาย นักการตลาดต้องมีศิลปะในการเลือกของแจกแถมให้ตรงใจลูกค้า ต้นทุนอยู่ในงบประมาณที่เหมาะสมและต้องคำนึงถึงผลลัพธ์เชิงกลยุทธ์ของรายการส่งเสริมการขายนั้นด้วยครับ
 ที่มา basicholiday ดอทคอม

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

พรีเมี่ยม: กลยุทธิ์การกำหนดราคาสินค้าพรีเมี่ยม

          การกำหนดราคาสินค้าและบริการถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับการดำเนินงานทางธุรกิจ เพราะความสำเร็จและผลกำไรขึ้นอยู่กับการตั้งราคาผลิตภัณฑ์และบริการ ดังนั้นการกำหนดราคาจึงเป็นเรื่องใกล้ตัวผู้ประกอบการทุกคนมาก ซึ่งหากสินค้าและบริการของผู้ประกอบการไม่ได้มีราคาพร้อมต้นทุนหรือถูกจัดอยู่ในตลาดกลุ่มผู้บริโภคที่สูงมากนัก ก็คงไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการตั้งราคาเพราะสามารถอ้างอิงจากท้องตลาดได้ แต่หากสินค้าของผู้ประกอบการมีต้นทุนสูงและกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในระดับ บน ปัญหาการตั้งราคาจะเกิดขึ้นโดยทันที เนื่องจากไม่สามารถตั้งราคาอ้างอิงกับตลาดได้
           Paul Spiegelman (พอล สปีเกลแมน) นักธุรกิจผู้มากประสบการณ์ด้านงานบริการลูกค้า ได้ให้คำแนะนำเรื่องการตั้งราคาสำหรับสินค้าและบริการระดับพรีเมี่ยมว่าควร มีกลยุทธ์การตั้งราคาที่ดีและมีแบบแผนอย่างมืออาชีพ โดยมีรูปแบบทั้ง 6 ขั้นตอนดังต่อไปนี้

สินค้าและบริการต้องเป็นระดับพรีเมี่ยมจริง!
          ถ้าคิดจะทำธุรกิจที่มีราคาขายค่อนข้างสูงและกลุ่มเป้าหมายอยู่ในระดับบนให้ ประสบความสำเร็จจริง เรื่องคุณภาพสินค้าหรือบริการจะต้องเป็นสิ่งที่เด่นที่สุด เพราะสินค้าจะขายไม่ได้เลยหากมีราคาแพงแต่คุณสมบัติกลับเป็นเพียงแค่ของ พื้นๆ ที่หาซื้อได้ตามตลาดทั่วไป ดังนั้นผู้ประกอบการต้องมั่นใจเสียก่อนว่าสินค้าของตนดีจริง สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้มากกว่าสินค้าทั่วไปในท้องตลาด จึงจะเป็นกุญแจสำคัญดอกที่ 1 หากคิดจะขายของแพงให้ประสบความสำเร็จ

กำหนดราคาสูงกว่าอย่างมีเหตุผล!
           หากสินค้าและบริการของผู้ประกอบการดีกว่าของคู่แข่งในท้องตลาดจริง เชื่อว่าผู้บริโภคพร้อมจะควักเงินในกระเป๋ามาซื้ออย่างแน่นอน แต่ติดอยู่เพียงปัญหาเดียวที่พวกเขาอยากทราบมากที่สุดนั่นคือทำไมต้องจ่าย ราคาแพงกว่าด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการต้องอธิบายให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าเพราะอะไรสินค้าและ บริการของเราถึงราคาสูงกว่าและดีกว่าของคู่แข่งซึ่งราคาถูกกว่ายังไง เหตุผลที่ผู้ประกอบการอธิบายไปในข้อนี้จะช่วยสนับสนุนการตัดสินใจขั้นสุด ท้ายของผู้บริโภคด้วย

พนักงานมีคุณภาพ!
           ธุรกิจจำนวนมากที่กำหนดราคาพร้อมวางสินค้าและบริการของตนอยู่ในระดับสูง สามารถประสบความสำเร็จได้้เพราะมีพนักงานขายที่ดี ดังนั้นผู้ประกอบการควรคัดเลือกพนักงานขายที่ดีอันดับต้นๆ ให้ทำหน้าที่ขายสินค้าและบริการประเภทพรีเมี่ยม เพราะความรู้บวกกับเทคนิคส่วนตัวของพนักงานจะช่วยให้ปิดการขายอย่างประสบควม สำเร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับและแรงจูงใจที่ผู้ประกอบการให้พนักขายของตนเองด้วย อาทิ การให้เปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่นจากยอดขาย เป็นต้น

ไม่ลดราคาลงไปแข่ง!
            สิ่งหนึ่งที่ผู้ประกอบการต้องมีหากคิดจะขายสินค้าที่มีคุณภาพและราคาแพงก็คือความหนักแน่น จะไม่มีประโยชน์อะไรเลยหากผู้ประกอบการมีจุดวัดความสำเร็จที่ยอดการสั่งซื้อเพียงอย่างเดียว เพราะหากให้ลองเปรียบเทียบเป็นหลักสมการง่ายๆ จะเข้าใจว่าสินค้าที่มีราคาขายถึง 1 ล้านบาท เมื่อเทียบกันกับสินค้าที่มีราคาขายเพียง 1 แสนบาท สินค้าอย่างหลังที่มีราคาถูกกว่าย่อมมียอดขายมากกว่าเป็นธรรมดา แต่ประเด็นที่อยากให้มองคือสินค้าที่ถูกกว่าไม่มีทางจะตอบสนองความต้องการ ได้เท่ากับสินค้าระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาแพงกว่าอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้ประกอบการจะต้องหนักแน่นและไม่ลดราคาลงไปขายแข่งกับสินค้าราคา ถูกกว่า เพราะจะเท่ากับเป็นการลดเกรดของสินค้าไปในตัว

ไม่ทำสงครามราคา!
             แม้การลดราคาจะสามารถสร้างยอดจำหน่ายสินค้าและบริการให้เพิ่มขึ้นอย่างรวด เร็วได้ แต่ไม่มีทางที่จะเป็นประโยชน์ได้เลยหากสุดท้ายแล้วธุรกิจของผู้ประกอบการขาด ทุน ดังนั้นผู้ประกอบการทุกคนที่จำหน่ายสินค้าและบริการในระดับพรีเมี่ยมจะต้องไม่เปิดศึกแข่งกันในสงครามราคาอย่างเด็ดขาด เพราะเรามีเหตุผลอยู่แล้วว่าทำไมต้องกำหนดราคาสินค้าพรีเมี่ยมสูงเช่นนี้ ซึ่งมันรวมไปถึงจุดคุ้มทุนและระดับของผลกำไรด้วย การลดราคาลงไปแข่งขันจะทำให้โครงสร้างส่วนดังกล่าวบิดเบือนไปจากเดิม และสุดท้ายอาจนำมาซึ่งการขาดทุนก็เป็นได้

มีโครงสร้างทางการเงินที่มีเสถียรภาพ!
            แน่นอนที่สุดว่าราคาสินค้าและบริการระดับพรีเมี่ยมที่สูงมากก็เป็นผลสืบ เนื่องจากการมีต้นทุนแรกเริ่มที่รับมาสูง ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการต้องมั่นใจเสียก่อนว่าบริษัทของตนมีโครงสร้างทางการเงินที่มี เสถียรภาพและแข็งแรงมากพอ เพราะหากสินค้ามียอดจำหน่ายที่ไม่สูงมากนัก (ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นเช่นนั้น) จำนวนเงินในระบบมากกว่าครึ่งจะต้องไปจมอยู่กับต้นทุนแน่นอน โครงสร้างทางการเงินของผู้ประกอบการจึงต้องมีเงินหมุนเวียนมากพอด้วยเช่นกัน
           ผู้ประกอบการทุกท่านต้องเข้าใจว่าสินค้าที่มีราคาแพงมีจุดเด่นในตัวมัน เองอยู่แล้ว รวมถึงที่มาที่ไปของราคาซึ่งลงตัวที่จุดนี้ด้วย ดังนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรทำที่สุดก็คือพยายามดึงจุดเด่นที่มีในตัว สินค้าและบริการออกมานำเสนอต่อผู้บริโภคให้เห็นถึงข้อดีหากใช้สินค้าของเรา พยายามทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าสินค้าของเราสามารถให้ได้มากกว่าของคู่แข่ง อื่นในท้องตลาด และทำไมถึงต้องเป็นสินค้าของเรา จึงจะเป็นกลยุทธ์ในการขายสินค้าในระดับพรีเมี่ยมที่ดีที่สุด
ที่มา incquity ดอทคอม